ปรัชญา ปณิธาน วิสัยทัศน์ พันธกิจ |
ปรัชญา บริหารทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพด้วยหลักธรรมาภิบาล โดยยึดผลประโยชน์ส่วนรวมของมหาวิทยาลัยราชภัฏราชสีมา
ปณิธาน มุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เป็นที่ยอมรับของท้องถิ่นและยกระดับสู่ระดับประเทศและนานาชาติ โดยยึดหลักธรรมาภิบาลเป็นที่ตั้ง
วิสัยทัศน์ “ พัฒนาระบบบริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรมสู่ความเป็นเลิศด้านการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น ”
การวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง แนวทางแก้ไขของสถาบันวิจัยและพัฒนา สถาบันวิจัยและพัฒนา มีบทบาทหน้าที่ในการขับเคลื่อนการวิจัยของมหาวิทยาลัยให้มีความก้าวหน้าและเป็นที่ยอมรับของสังคมทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และนานาชาติ และเป็นหน่วยงานสำคัญในการหนุนเสริมการพลิกโฉม และพัฒนามหาวิทยาลัยสู่ความเป็นเลิศตามกลุ่มยุทธศาสตร์ที่เลือกสังกัด คือ กลุ่มพัฒนาชุมชนท้องถิ่นหรือชุมชนอื่น (Area based and community) ตามกรอบแผนพัฒนาความเป็นเลิศมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) สถาบันวิจัยและพัฒนา จึงจำเป็นต้องมีนักบริหารจัดการงานวิจัย ที่มีศักยภาพในการปรับปรุงระบบบริหารจัดการงานวิจัย และสามารถบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงของเงื่อนไขปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้น สร้างบรรยากาศในการทำงานให้คนทำงานอย่างมีความสุข มีเครือข่ายที่ดีทั้งภายในมหาวิทยาลัยและภายนอกมหาวิทยาลัย มีวิธีการในการกระตุ้นให้คนมุ่งมั่นในการทำงานและมีความรู้ความเข้าใจและทีมงานที่พร้อมที่จะชับเคลื่อนพันธกิจการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสู่ความเป็นเลิศด้านการพัฒนาชุมชชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ปัจจุบันระบบบริหารจัดการงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเป็นไปตามพันธกิจที่ดำเนินการในระยะที่ผ่านมาแต่หากจะนำพามหาวิทยาลัยสู่ความเป็นเลิศด้านการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นยังพบว่ามีช่องว่างของการพัฒนาที่จะต้องเติมเต็มจึงได้มีการวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง และแนวทางแก้ไขของการบริหารจัดการงานวิจัยของสถาบันวิจัยและพัฒนาให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงและหนุนเสริมการพัฒนามหาวิทยาลัยสู่ความเป็นเลิศได้ ดังนี้
แนวทางการพัฒนาขับเคลื่อนสถาบันวิจัยและพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ จากนโยบายการปฏิรูประบบการวิจัยชาติในระยะที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงระบบการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนโครงการวิจัยงบประมาณแผ่นดินและการปรับเปลี่ยนระบบบริหารจัดการแหล่งทุนวิจัย ประกอบกับเป้าหมายการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ตามนโยบายสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นปี 2566-2570 โดยยึดตามการปรับปรุงยุทธศาสตร์อุดมศึกษาสู่ความเป็นเลิศ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะดำเนินการสร้างองค์ความรู้และร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเพื่อการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นโดยใช้กระบวนการวิจัยเป็นฐาน ในการดำเนินงาน สถาบันวิจัยและพัฒนา ต้องทำงานแบบบูรณาการเชิงรุกเพื่อสร้างความร่วมมือบูรณาการจากนักวิจัยที่มีความรู้จากศาสตร์ที่หลากหลายทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยเพื่อหล่อหลอมองค์ความรู้ให้สามารถสร้างผลงานวิจัยที่เห็นผลอย่างชัดเจนโดยการอาศัยความรู้พื้นฐานของนักวิจัยมาประยุกต์เพื่อให้สามารถบูรณาการสู่การพัฒนางานวิจัยเชิงพื้นที่เป็นหลัก โดยให้ความสำคัญกับงานวิจัยที่เกิดประโยชน์ เป็นงานวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ที่สามารถนำความรู้จากการวิจัยพื้นฐาน (Basic research) มาใช้สำหรับการวิจัยเชิงพื้นที่ (Area base) และเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม(Participatory Action Research) ซึ่งผู้ที่จะทำหน้าที่ในการบริหารจัดการขับเคลื่อนงานวิจัยนี้ต้องเป็นผู้ที่มีวิธีคิดและวิสัยทัศน์ ที่เห็นคุณค่าของงานวิจัยเชิงพื้นที่และสามารถบูรณาการกับงานวิจัยพื้นฐานในศาสตร์ต่างๆ เพื่อเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นได้ และสามารถเชื่อมโยงเครือข่ายแหล่งทุนวิจัยจากภายนอกเพื่อสนับสนุนการทำงานที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมสามารถสร้างรายได้จากงานวิจัยเข้าสู่มหาวิทยาลัย ยกระดับคุณภาพชีวิตบุคลากร นักวิจัย อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ จากการดำเนินงานวิจัย |